Saturday, April 01, 2006
ดอกไม้กำลังจะบาน
ดอกไม้ ดอกไม้จะบาน บริสุทธิ์กล้าหาญจะบานในใจ ...
วันนี้หลังจากได้คุยโทรศัพท์กับแฟนผมที่โทร.มาหาจากเมืองไทยแล้ว เนื้อเพลงนี้ก็ผุดขึ้นมาในใจผมทันที ซึ่งที่จริงเรื่องมันก็ไม่ค่อยจะตรงกับเนื้อเพลงเท่าไหร่ ทำไมถึงนึกถึงเพลงนี้ก็ไม่ทราบ
เรื่องมีอยู่ว่าแฟนผมเขาโทร. มาบอกว่าตอนนี้แม่ (แม่ยายผม) บอกว่าไม่เอาทักษิณแล้ว ที่จริงอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไร สำหรับคนทั่วๆ ไปเพราะมีคนเกลียดทักษิณ กันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบ้านผม เพราะปัญหาของบ้านผมในช่วงที่ผ่านมาคือในบ้านของผม พ่อ (พ่อตา) ผม แฟนผม และ พี่ชายแฟนผม ซึ่งทุกคนรับราชการ และทุกคนมีความรู้สึกร่วมกัน คือ ไม่เอาทักษิณ
มีแม่ กับ ยายทวด ที่ชอบทักษิณ ยายทวดอายุประมาณเจ็ดสิบกว่าท่านเป็นคนชอบอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ อ่านทุกวัน อ่านเกือบทุกคอลัมน์ และประกอบกับช่วงหลังๆ แฟนผมพยายามพรินท์ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับทักษิณจากอินเทอร์เน็ตมาฝากเกือบทุกวัน ในที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ ยายทวดก็บอกว่าไม่เอาแล้วทักษิณ มันไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาว่าจริงๆ
เหลือแม่ยายผม แม่ชอบทักษิณ ไม่ยอมรับฟังข่าวที่ให้ร้ายทักษิณ แม่จะทะเลาะกับลูกชายซึ่งเป็นเภสัชกร อยู่บ่อยๆ ในเรื่องทักษิณ เพราะลูกชายไม่ชอบทักษิณเอามากๆ เขาอ่านหนังสือรู้ทันทักษิณ ตั้งแต่หนังสือออกมาใหม่ๆ อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ดู ASTV เป็นประจำ แต่แม่จะไม่ยอมดู ASTV เวลาทะเลาะกันก็มีการขึ้นเสียงกันบ้าง บางครั้งแม่เหลืออดแม่ก็โวยว่า “ทำไม..จะชอบทักษิณแล้วมันผิดกฏหมายตรงไหน” ซึ่งโดยส่วนมากหลังจากมีปากเสียงกันเล็กน้อยแม่ก็จะเป็นฝ่ายเงียบปล่อยให้ลูกชายหงุดหงิดต่อไป ถึงแม้แฟนผมพยายามจะพรินท์ข้อมูลมาให้แม่อ่าน เหมือนที่เอามาให้ยายทวดอ่าน แต่แม่ก็ไม่อยากอ่าน
นอกจากปัญหาในครอบครัวผมแล้ว แฟนผมยังเล่าให้ฟังว่าในที่ทำงานมีเพื่อนในแผนกเดียวกันกลุ่มหนึ่งชอบทักษิณมาก และอีกกลุ่มหนึ่งเกลียดทักษิณมากเช่นกัน มีการโต้เถีงกันอยู่บ่อยๆ จนในที่สุดต่างฝ่ายต่างไม่พูดกันอีกต่อไป ทำให้บรรยากาศในที่ทำงานตึงเครียดขึ้นพอสมควร ในกลุ่มคนที่ชอบทักษิณ จะไม่ยอมรับข้อมูลฟังใดๆ ในด้านร้ายของทักษิณ เพราะเห็นว่าเป็นการโจมตีใส่ร้าย เขาบอกว่าไม่เคยมีนายกคนไหนดีเท่าทักษิณ ทักษิณขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ (ซึ่งไม่เคยมีนายกคนไหนทำมาก่อน) ทักษิณทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค (ทั้งๆ ที่เป็นข้าราชการไม่จำเป็นต้องเข้า 30 บาทด้วยซ้ำ) รวมทั้งโครงการช่วยเหลือคนยากคนจนต่างๆ ก็ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำได้แบบนี้
อย่างไรก็ตามในความขัดแย้งก็มีอะไรน่ารักๆ เกิดขึ้น แฟนผมเล่าว่ามีพี่คนหนึ่งที่เป็นฝ่ายไม่เอาทักษิณ ลงทุนดาวน์โหลดหนังสือหยุดระบอบทักษิณ ของอาจารย์แก้วสรร พรินท์ออกมาแล้วควักเงินตัวเองนำไปถ่ายเอกสารประมาณร้อยชุด แล้วเอามาวางไว้ในสำนักงาน ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เพื่อล่อตาล่อใจให้ฝ่ายสนับสนุนทักษิณได้หยิบไปอ่านบ้าง แม้กระทั่งนำไปไว้ตามห้องประชาสัมพันธ์บ้าง เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ ผมเห็นว่านี่เป็นความพยายามที่น่ารัก น่านับถือของพี่แก รวมทั้งพยายามเผยแพร่ข่าวสารอื่นๆ ในทำนองนี้ด้วย ซึ่งเอกสารเหล่านี้ที่แฟนผมก็นำมาฝากยายทวด อยู่เรื่อยๆ จนเราได้ยายทวดมาเป็นพวกในที่สุด
ส่วนเรื่องจุดเปลี่ยนของแม่ยายผม เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อเย็นวันที่ 30 มีนาคม 2549 ลูกชายไม่อยู่บ้าน พ่อตาผมอยู่บ้านก็เปิดดู ASTV สงสัยแม่คงอยากจะอยู่เป็นเพื่อนพ่อ ก็เลยได้นั่งดู ASTV ไปด้วย หลังจากได้ดู ASTV ไปพอสมควรคืนนั้นแม่ก็บอกว่า ตอนนี้แม่เข้าใจแล้ว แม่จะไม่เลือกทักษิณแล้ว ตอนนี้แม่ก็เลยสามารถคุยเรื่องการเมืองร่วมกับคนอื่นๆ ที่บ้านของผมได้ อย่างสบายใจ
จริงๆ แล้วปัญหาก็ยังไม่หมดเสียทีเดียว ยังเหลือคุณอาผู้หญิง และคุณอาผู้ชาย ที่อยู่บ้านตรงกันข้าม ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นข้าราชการเช่นกันอาผู้ชายเป็นนายตำรวจเกษียณอายุราชการแล้ว ทั้งคู่ชอบทักษิณ และเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการช่วยหาเสียงให้ ไทยรักไทย ในเขตนี้ อาผู้ชายจะไม่ยอมดู ASTV จะด่าทุกคนที่ด่าทักษิณ พวกเราก็สรุปกันว่า อย่าไปคุยเรื่องนี้กับแก ซึ่งความจริงก็คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะที่สำคัญตอนนี้บ้านผมเราเข้าใจกันหมดแล้ว พูดภาษาเดียวกันได้แล้ว
ผมจึงถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ระบบประชาธิปไตยได้เติบโตในครอบครัวของผมแล้ว จากความรู้สึกนึกคิดที่ต่างกัน ซึ่งเกิดจากการได้รับข้อมูล หรือ การรับรู้ที่ไม่เท่ากัน แต่ที่เราสามารถอยู่ร่วมกันได้เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ในที่สุดจากความอดทน และความพยายามของคนในครอบครัวในการให้ข้อมูลให้เท่าเทียมกันก็สามารถเปลี่ยนมุมมองของแม่ให้มายืนอยู่ข้างเราได้ ถ้าถือว่าสังคม หรือ ประชาธิปไตยมีพื้นฐานมาจากครอบครับ ผมก็เชื่อว่าอย่างน้อยมีครอบครัวหนึ่งที่ประสบชัยชนะจากระบบทักษิณแล้ว และคงไม่ใช่เฉพาะครอบครัวผม น่าจะมีครอบครัวอื่นๆ อีกจำนวนมากที่ประสบชัยชนะ สามารถปลดแอกระบอบทักษิณออกไป และเชื่อว่าคงมีครอบอีกหลายครอบครับที่กำลังจะได้รับชัยชนะ จากการที่พวกเราทุกคนพยายามให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ออกไปสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง และอดทน
ผมจึงอยากให้ตัวอย่างนี้ ได้สื่อไปถึงพันธมิตร สื่อสารมวลชน และพวกเราทุกๆ คน ให้มีกำลังใจ ให้มีความเข้าใจว่ายังมีคนอีกจำนวนมาก ครอบครัวอีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเหมือนเรา ไม่มีโอกาสได้ดู ASTV หรือ แม้กระทั้งได้รับข้อมูลด้านเดียวจากรายการนายกฯ พบประชาชนมาตลอดระยะเวลาห้าปี ซึ่งที่จริงเขาไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา เขาอาจจะไม่ใช่กลุ่มคนที่ฉลาดมากนัก แต่ก็คงไม่ควรเรียกว่าเขาโง่ ผมเชื่อว่าถ้าคนเหล่านี้ได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าเขาเหล่านี้แหละจะลุกขึ้นมาไล่ทักษิณ ร่วมกับพวกเราต่อไป
วันนี้พ่อตาผมได้ออกไปร่วมเดินขบวนขับไล่ทักษิณเป็นครั้งแรกด้วยครับ ทำให้ผมฮำเพลง “ดอกไม้ ดอกไม้จะบาน ...” อยู่เงียบๆ คนเดียว
วันนี้หลังจากได้คุยโทรศัพท์กับแฟนผมที่โทร.มาหาจากเมืองไทยแล้ว เนื้อเพลงนี้ก็ผุดขึ้นมาในใจผมทันที ซึ่งที่จริงเรื่องมันก็ไม่ค่อยจะตรงกับเนื้อเพลงเท่าไหร่ ทำไมถึงนึกถึงเพลงนี้ก็ไม่ทราบ
เรื่องมีอยู่ว่าแฟนผมเขาโทร. มาบอกว่าตอนนี้แม่ (แม่ยายผม) บอกว่าไม่เอาทักษิณแล้ว ที่จริงอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไร สำหรับคนทั่วๆ ไปเพราะมีคนเกลียดทักษิณ กันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบ้านผม เพราะปัญหาของบ้านผมในช่วงที่ผ่านมาคือในบ้านของผม พ่อ (พ่อตา) ผม แฟนผม และ พี่ชายแฟนผม ซึ่งทุกคนรับราชการ และทุกคนมีความรู้สึกร่วมกัน คือ ไม่เอาทักษิณ
มีแม่ กับ ยายทวด ที่ชอบทักษิณ ยายทวดอายุประมาณเจ็ดสิบกว่าท่านเป็นคนชอบอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ อ่านทุกวัน อ่านเกือบทุกคอลัมน์ และประกอบกับช่วงหลังๆ แฟนผมพยายามพรินท์ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับทักษิณจากอินเทอร์เน็ตมาฝากเกือบทุกวัน ในที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ ยายทวดก็บอกว่าไม่เอาแล้วทักษิณ มันไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาว่าจริงๆ
เหลือแม่ยายผม แม่ชอบทักษิณ ไม่ยอมรับฟังข่าวที่ให้ร้ายทักษิณ แม่จะทะเลาะกับลูกชายซึ่งเป็นเภสัชกร อยู่บ่อยๆ ในเรื่องทักษิณ เพราะลูกชายไม่ชอบทักษิณเอามากๆ เขาอ่านหนังสือรู้ทันทักษิณ ตั้งแต่หนังสือออกมาใหม่ๆ อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ดู ASTV เป็นประจำ แต่แม่จะไม่ยอมดู ASTV เวลาทะเลาะกันก็มีการขึ้นเสียงกันบ้าง บางครั้งแม่เหลืออดแม่ก็โวยว่า “ทำไม..จะชอบทักษิณแล้วมันผิดกฏหมายตรงไหน” ซึ่งโดยส่วนมากหลังจากมีปากเสียงกันเล็กน้อยแม่ก็จะเป็นฝ่ายเงียบปล่อยให้ลูกชายหงุดหงิดต่อไป ถึงแม้แฟนผมพยายามจะพรินท์ข้อมูลมาให้แม่อ่าน เหมือนที่เอามาให้ยายทวดอ่าน แต่แม่ก็ไม่อยากอ่าน
นอกจากปัญหาในครอบครัวผมแล้ว แฟนผมยังเล่าให้ฟังว่าในที่ทำงานมีเพื่อนในแผนกเดียวกันกลุ่มหนึ่งชอบทักษิณมาก และอีกกลุ่มหนึ่งเกลียดทักษิณมากเช่นกัน มีการโต้เถีงกันอยู่บ่อยๆ จนในที่สุดต่างฝ่ายต่างไม่พูดกันอีกต่อไป ทำให้บรรยากาศในที่ทำงานตึงเครียดขึ้นพอสมควร ในกลุ่มคนที่ชอบทักษิณ จะไม่ยอมรับข้อมูลฟังใดๆ ในด้านร้ายของทักษิณ เพราะเห็นว่าเป็นการโจมตีใส่ร้าย เขาบอกว่าไม่เคยมีนายกคนไหนดีเท่าทักษิณ ทักษิณขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ (ซึ่งไม่เคยมีนายกคนไหนทำมาก่อน) ทักษิณทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค (ทั้งๆ ที่เป็นข้าราชการไม่จำเป็นต้องเข้า 30 บาทด้วยซ้ำ) รวมทั้งโครงการช่วยเหลือคนยากคนจนต่างๆ ก็ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำได้แบบนี้
อย่างไรก็ตามในความขัดแย้งก็มีอะไรน่ารักๆ เกิดขึ้น แฟนผมเล่าว่ามีพี่คนหนึ่งที่เป็นฝ่ายไม่เอาทักษิณ ลงทุนดาวน์โหลดหนังสือหยุดระบอบทักษิณ ของอาจารย์แก้วสรร พรินท์ออกมาแล้วควักเงินตัวเองนำไปถ่ายเอกสารประมาณร้อยชุด แล้วเอามาวางไว้ในสำนักงาน ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง เพื่อล่อตาล่อใจให้ฝ่ายสนับสนุนทักษิณได้หยิบไปอ่านบ้าง แม้กระทั่งนำไปไว้ตามห้องประชาสัมพันธ์บ้าง เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ ผมเห็นว่านี่เป็นความพยายามที่น่ารัก น่านับถือของพี่แก รวมทั้งพยายามเผยแพร่ข่าวสารอื่นๆ ในทำนองนี้ด้วย ซึ่งเอกสารเหล่านี้ที่แฟนผมก็นำมาฝากยายทวด อยู่เรื่อยๆ จนเราได้ยายทวดมาเป็นพวกในที่สุด
ส่วนเรื่องจุดเปลี่ยนของแม่ยายผม เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อเย็นวันที่ 30 มีนาคม 2549 ลูกชายไม่อยู่บ้าน พ่อตาผมอยู่บ้านก็เปิดดู ASTV สงสัยแม่คงอยากจะอยู่เป็นเพื่อนพ่อ ก็เลยได้นั่งดู ASTV ไปด้วย หลังจากได้ดู ASTV ไปพอสมควรคืนนั้นแม่ก็บอกว่า ตอนนี้แม่เข้าใจแล้ว แม่จะไม่เลือกทักษิณแล้ว ตอนนี้แม่ก็เลยสามารถคุยเรื่องการเมืองร่วมกับคนอื่นๆ ที่บ้านของผมได้ อย่างสบายใจ
จริงๆ แล้วปัญหาก็ยังไม่หมดเสียทีเดียว ยังเหลือคุณอาผู้หญิง และคุณอาผู้ชาย ที่อยู่บ้านตรงกันข้าม ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นข้าราชการเช่นกันอาผู้ชายเป็นนายตำรวจเกษียณอายุราชการแล้ว ทั้งคู่ชอบทักษิณ และเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการช่วยหาเสียงให้ ไทยรักไทย ในเขตนี้ อาผู้ชายจะไม่ยอมดู ASTV จะด่าทุกคนที่ด่าทักษิณ พวกเราก็สรุปกันว่า อย่าไปคุยเรื่องนี้กับแก ซึ่งความจริงก็คงไม่มีปัญหาอะไรเพราะที่สำคัญตอนนี้บ้านผมเราเข้าใจกันหมดแล้ว พูดภาษาเดียวกันได้แล้ว
ผมจึงถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ระบบประชาธิปไตยได้เติบโตในครอบครัวของผมแล้ว จากความรู้สึกนึกคิดที่ต่างกัน ซึ่งเกิดจากการได้รับข้อมูล หรือ การรับรู้ที่ไม่เท่ากัน แต่ที่เราสามารถอยู่ร่วมกันได้เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ในที่สุดจากความอดทน และความพยายามของคนในครอบครัวในการให้ข้อมูลให้เท่าเทียมกันก็สามารถเปลี่ยนมุมมองของแม่ให้มายืนอยู่ข้างเราได้ ถ้าถือว่าสังคม หรือ ประชาธิปไตยมีพื้นฐานมาจากครอบครับ ผมก็เชื่อว่าอย่างน้อยมีครอบครัวหนึ่งที่ประสบชัยชนะจากระบบทักษิณแล้ว และคงไม่ใช่เฉพาะครอบครัวผม น่าจะมีครอบครัวอื่นๆ อีกจำนวนมากที่ประสบชัยชนะ สามารถปลดแอกระบอบทักษิณออกไป และเชื่อว่าคงมีครอบอีกหลายครอบครับที่กำลังจะได้รับชัยชนะ จากการที่พวกเราทุกคนพยายามให้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ออกไปสู่สังคมอย่างต่อเนื่อง และอดทน
ผมจึงอยากให้ตัวอย่างนี้ ได้สื่อไปถึงพันธมิตร สื่อสารมวลชน และพวกเราทุกๆ คน ให้มีกำลังใจ ให้มีความเข้าใจว่ายังมีคนอีกจำนวนมาก ครอบครัวอีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเหมือนเรา ไม่มีโอกาสได้ดู ASTV หรือ แม้กระทั้งได้รับข้อมูลด้านเดียวจากรายการนายกฯ พบประชาชนมาตลอดระยะเวลาห้าปี ซึ่งที่จริงเขาไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา เขาอาจจะไม่ใช่กลุ่มคนที่ฉลาดมากนัก แต่ก็คงไม่ควรเรียกว่าเขาโง่ ผมเชื่อว่าถ้าคนเหล่านี้ได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าเขาเหล่านี้แหละจะลุกขึ้นมาไล่ทักษิณ ร่วมกับพวกเราต่อไป
วันนี้พ่อตาผมได้ออกไปร่วมเดินขบวนขับไล่ทักษิณเป็นครั้งแรกด้วยครับ ทำให้ผมฮำเพลง “ดอกไม้ ดอกไม้จะบาน ...” อยู่เงียบๆ คนเดียว
Comments:
<< Home
nike huarache
jordan 4
ugg boots
ugg boots
ralph lauren outlet
nike outlet
coach outlet
louboutin shoes
michael kors outlet
michael kors outlet online
jordan 4
ugg boots
ugg boots
ralph lauren outlet
nike outlet
coach outlet
louboutin shoes
michael kors outlet
michael kors outlet online
superdry clothing
off white shoes
jordans
pandora
oakley sunglasses
tods shoes
bottega veneta
coach outlet
salomom shoes
pandora
longchamp outlet
canada goose jackets
off white clothing
air jordan 4
coach outlet
pandora jewelry outlet
christian louboutin sale
michael kors handbags
true religion jeans
nike presto femme
pandora outlet
golden goose sneakers
prada handbags
hugo boss outlet
polo lacoste
nike factory
ray ban eyeglasses
canada goose jackets
kate spade outlet online
vibram fivefingers
oakley sunglasses wholesale
Post a Comment
off white shoes
jordans
pandora
oakley sunglasses
tods shoes
bottega veneta
coach outlet
salomom shoes
pandora
longchamp outlet
canada goose jackets
off white clothing
air jordan 4
coach outlet
pandora jewelry outlet
christian louboutin sale
michael kors handbags
true religion jeans
nike presto femme
pandora outlet
golden goose sneakers
prada handbags
hugo boss outlet
polo lacoste
nike factory
ray ban eyeglasses
canada goose jackets
kate spade outlet online
vibram fivefingers
oakley sunglasses wholesale
<< Home