Friday, June 03, 2005
ได้กำไรจากอุบัติเหตุแบบ win-win
วันนี้พา Jan เพื่อนชาวจีนเอาเช็คไปขึ้นเงินมา เป็นเช็คที่ไ้ด้จากการจ่ายค่าสินไหมของบริษัทประกันภัยจากการเกิดอุบัติเหตุ รถชนกันเมื่อเดือนก่อน สาเหตุคือวันนั้นเรากำลังขับรถไปมหาวิทยาลัยกัน โดยมีเพื่อนผมชื่อว่า Jan เป็นคนขับ และมีผมนั่งคู่ไปด้วยกับเพื่อนชาวจีนอีกคนชื่อ Bai พอเราจะเลี้ยวขวาก็มีรถบรรทุกหกล้อวิ่งแซงมาจากด้านหลังเฉี่ยวชนเข้าด้านคนข ับตั้งแต่ประตูหน้าไปจนถึงกันชน ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บคนขับรถบรรทุกก็ขอโทษขอโพยใหญ่ หลังจากเจรจากันเขาก็ยอมรับว่าเป็นความผิดของเขาเอง เขาจะให้บริษัทประกันจ่ายค่าซ่อมให้ รถก็พอขับได้แต่ประตูหน้าข้างคนขับเปิดไม่ได้ ผมก็ขับรถกลับบ้านให้เพราะ Jan ขวัญเสียตอนนั้นไม่อยากขับ
วันรุ่งขึ้น Landlord ก็ช่วยเรียกอู่มาตีราคา ตกลงกันที่ 1 พันเหรียญออสเตรเลีย (ราคารถซื้อมา พันสี่ร้อยเหรียญ ค่าซ่อมประตูหน้าเลยไปถึงกันชน 1 พัน ... แพงมาก) แล้วก็ไปแจ้งอุบัติเหตุที่โรงพัก หลังจากนั้นก็ติดต่อบริษัทประกัน อู่ก็ส่งใบเสนอราคาไปที่บริษัทประกัน เราก็รอเจ้าหน้าที่จากประกันภัยมาประเมินสองสามวัน อันนี้ต้องโทร.ตามทุกวัน พอมาประเมินก็เถียงกับใหญ่ เขาก็บอกว่าราคารถเนี่ยจริงๆ น่าจะซัก 1,500 เหรียญ และเป็นรถเก่าเขาจะไม่ซ่อมเขาจะจ่ายเงินให้แล้วก็จบก็แล้วแต่ว่าเราจะจัดการ รถเรายังไง เขามีวิธีคิดของเขาว่าอาจจะจ่ายให้เราประมาณ 1,150 เหรียญ ตอนแรกเพื่อนผมก็ทำท่าจะยอมนะ แต่ Landlord ก็เถียงไปว่าแล้วคุณรู้ได้ยังไงว่ารถมันแค่พันห้าร้อยเหรียญ ดูราคารถมือสองจากอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า เึถียงกันไปเถียงกันมาประกันก็เลยยอมจะประเมินราคารถให้ใหม่เป็น ประมาณสองพันเหรียญ แล้วเขาก็คำนวณว่าเขาจะจ่ายให้เรา 1,450 เหรียญ แต่เขาขอเวลาตรวจสอบก่อนประัมาณสองสัปดาห์ว่าใครผิด ถ้าเราผิดเขาจะจ่ายครึ่งเดียว เราก็ตกลงตามนั้นเพราะเรามั่นใจว่าเราไม่ผิด ตอนหลังเราถึงรู้ว่าอู่ส่งราคาซ่อมไป 1,750 เหรียญ ประกันก็คงคิดว่าตัวเิองประหยัดไปได้ 300 เหรียญนะงานนี้
เราก็เลยตั ดสินใจเอารถไปซ่อมโดยเพื่อนผมจะออกเงินไปก่อน เพราะในกรณีที่แย่จริงๆ เราอาจจะได้ประมาณ 725 เหรียญ ก็ไปบีบอู่ให้ลดราคาลงมาจาก 1 พันเหรียญ ให้เหลือ 8 ร้อยเหรียญก็อ้างว่าเราเป็นนักศึกษามีเงินจ่ายแค่ 8 ร้อยเหรียญ เราอาจจะได้จากประกัน 7 ร้อยกว่า ในที่สุดก็ตกลงกันได้ที่ 8 ร้อย จนซ่อมรถเสร็จเงินประกันยังไม่มาซึ่งเพื่อนต้องควักกระเป๋าจ่ายไปก่อน
ห ลังจากใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเมื่อวาน Jan ได้รับเช็คจากบริษัทประกันแล้ว 1,450 เหรียญ เพื่อเป็นค่าซ่อมรถ ก็สรุปว่างานนี้ได้กำไร 650 เหรียญ เพื่อนหลายคนก็แซวว่าเป็นธุรกิจที่ดีทีเดียวน่าจะชนอีกนะ แต่ผมว่าไม่เอาด้วยล่ะครับใครอยากได้กำไรด้วยวิธีนี้ก็ขอเชิญแต่ผมไม่เอาด้ว ยคนครั้งที่แล้วรอดมาได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บก็โชคดีที่สุดแล้ว
ส รุป จากราคารถซื้อมาราคา 1,400 เหรียญ อู่ซ่อมตีราคาช่อมจากประตูหน้าถึงกันชน 1,750 เหรียญ บริษัทประกันภัยจ่ายให้เรา 1,450 เหรียญ ประกันฯ ประหยัดเงินได้ 300 เหรียญ อู่ได้เงินค่าซ่อมไป 800 เหรียญ เพื่อนผมได้กำไร 650 เหรียญ คิดว่ามันมีอะไรแปลกๆ ไหมกับการทำธุรกิจในประเทศนี้... ออสเตรเลีย หรืออาจจะเป็นแบบเขาเรียกว่า (win-win-win)
ป.ล. Jan บอกว่่าจะเลี้ยงข้าวพวกผมมื้อใหญ่เป็นการตอบแทนเสาร์นี้
วันรุ่งขึ้น Landlord ก็ช่วยเรียกอู่มาตีราคา ตกลงกันที่ 1 พันเหรียญออสเตรเลีย (ราคารถซื้อมา พันสี่ร้อยเหรียญ ค่าซ่อมประตูหน้าเลยไปถึงกันชน 1 พัน ... แพงมาก) แล้วก็ไปแจ้งอุบัติเหตุที่โรงพัก หลังจากนั้นก็ติดต่อบริษัทประกัน อู่ก็ส่งใบเสนอราคาไปที่บริษัทประกัน เราก็รอเจ้าหน้าที่จากประกันภัยมาประเมินสองสามวัน อันนี้ต้องโทร.ตามทุกวัน พอมาประเมินก็เถียงกับใหญ่ เขาก็บอกว่าราคารถเนี่ยจริงๆ น่าจะซัก 1,500 เหรียญ และเป็นรถเก่าเขาจะไม่ซ่อมเขาจะจ่ายเงินให้แล้วก็จบก็แล้วแต่ว่าเราจะจัดการ รถเรายังไง เขามีวิธีคิดของเขาว่าอาจจะจ่ายให้เราประมาณ 1,150 เหรียญ ตอนแรกเพื่อนผมก็ทำท่าจะยอมนะ แต่ Landlord ก็เถียงไปว่าแล้วคุณรู้ได้ยังไงว่ารถมันแค่พันห้าร้อยเหรียญ ดูราคารถมือสองจากอินเทอร์เน็ตหรือเปล่า เึถียงกันไปเถียงกันมาประกันก็เลยยอมจะประเมินราคารถให้ใหม่เป็น ประมาณสองพันเหรียญ แล้วเขาก็คำนวณว่าเขาจะจ่ายให้เรา 1,450 เหรียญ แต่เขาขอเวลาตรวจสอบก่อนประัมาณสองสัปดาห์ว่าใครผิด ถ้าเราผิดเขาจะจ่ายครึ่งเดียว เราก็ตกลงตามนั้นเพราะเรามั่นใจว่าเราไม่ผิด ตอนหลังเราถึงรู้ว่าอู่ส่งราคาซ่อมไป 1,750 เหรียญ ประกันก็คงคิดว่าตัวเิองประหยัดไปได้ 300 เหรียญนะงานนี้
เราก็เลยตั ดสินใจเอารถไปซ่อมโดยเพื่อนผมจะออกเงินไปก่อน เพราะในกรณีที่แย่จริงๆ เราอาจจะได้ประมาณ 725 เหรียญ ก็ไปบีบอู่ให้ลดราคาลงมาจาก 1 พันเหรียญ ให้เหลือ 8 ร้อยเหรียญก็อ้างว่าเราเป็นนักศึกษามีเงินจ่ายแค่ 8 ร้อยเหรียญ เราอาจจะได้จากประกัน 7 ร้อยกว่า ในที่สุดก็ตกลงกันได้ที่ 8 ร้อย จนซ่อมรถเสร็จเงินประกันยังไม่มาซึ่งเพื่อนต้องควักกระเป๋าจ่ายไปก่อน
ห ลังจากใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเมื่อวาน Jan ได้รับเช็คจากบริษัทประกันแล้ว 1,450 เหรียญ เพื่อเป็นค่าซ่อมรถ ก็สรุปว่างานนี้ได้กำไร 650 เหรียญ เพื่อนหลายคนก็แซวว่าเป็นธุรกิจที่ดีทีเดียวน่าจะชนอีกนะ แต่ผมว่าไม่เอาด้วยล่ะครับใครอยากได้กำไรด้วยวิธีนี้ก็ขอเชิญแต่ผมไม่เอาด้ว ยคนครั้งที่แล้วรอดมาได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บก็โชคดีที่สุดแล้ว
ส รุป จากราคารถซื้อมาราคา 1,400 เหรียญ อู่ซ่อมตีราคาช่อมจากประตูหน้าถึงกันชน 1,750 เหรียญ บริษัทประกันภัยจ่ายให้เรา 1,450 เหรียญ ประกันฯ ประหยัดเงินได้ 300 เหรียญ อู่ได้เงินค่าซ่อมไป 800 เหรียญ เพื่อนผมได้กำไร 650 เหรียญ คิดว่ามันมีอะไรแปลกๆ ไหมกับการทำธุรกิจในประเทศนี้... ออสเตรเลีย หรืออาจจะเป็นแบบเขาเรียกว่า (win-win-win)
ป.ล. Jan บอกว่่าจะเลี้ยงข้าวพวกผมมื้อใหญ่เป็นการตอบแทนเสาร์นี้